google-site-verification: google49d119a0868d58ef.html
top of page
รูปภาพนักเขียนsiriwanpokrung

โรคหืดในเด็กเล็ก

♥️โรคหืดในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี♥️ 👨‍👩‍👧วันนี้คุณแม่ท่านหนึ่งถามเข้ามาทาง Line@ ว่า เราจะทราบได้อย่างไรว่า ลูกอายุ 3 ปี มีคุณพ่อเป็นโรคหอบหืด ลูกมีโอกาสเป็นหอบหืดได้กี่ % และจะทราบได้อย่างไรว่าลูกเป็นหอบหืดแล้วหรือยัง❓ ♥️โรคหอบหืดในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี♥️ โรคหอบหืดเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่มีอาการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมมีภาวะไวต่อสิ่งที่มากระตุ้นไม่ว่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ ,การติดเชื้อไวรัส การออกกำลังกาย ,อากาศเย็น ,มลพิษ ,การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ 📊ถ้าเด็ก มีพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด 1 คน มีโอกาสที่ลูกจะเป็นหอบหืดได้ 25-30% 📊ถ้าเด็กมีพ่อและแม่ เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดทั้ง 2 คน มีโอกาสที่ลูกจะเป็นหอบหืดได้ เพิ่มถึง 50% หรือมากกว่า 🧒🏻เด็กที่เป็นโรคหอบหืดจะมีอาการอะไรบ้าง❓ -ไอ มักไอบ่อยเวลาเป็นหวัด ไอขณะหลับ -อาการไอ เสียงหายใจวี๊ด ถูกกระตุ้นโดยการออกกำลังกาย ,การเปลี่ยนแปลงของอากาศ ,การแสดงออกทางอารมณ์ เช่น ร้องไห้ หัวเราะ ตะโกน ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ -มีเสียงวี๊ดขณะหายใจออก -หายใจสั้น -แน่นหน้าอก -มีปัญหาการนอน นอนหลับไม่เต็มที่ถูกรบกวนโดยการไอ หายใจวี๊ด เด็กจะดูเพลีย ไม่สดชื่น -เด็กมีอาการไอมากขึ้นหรือมีเสียงวี๊ด เมื่อเป็นหวัด -เด็กที่เป็นหืดเวลาติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนจะหายยากและใช้เวลานานกว่าเด็กปกติ 😏โรคหอบหืดเป็นโรคที่วินิจฉัยได้ยาก ในเด็ก อายุน้อยกว่า 5 ปี ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น😩❓ เนื่องจาก ในเด็กเล็กเวลาติดเชื้อทางเดินหายใจแล้วมักจะกระตุ้นให้หลอดลมเกร็งตัว ทำให้เกิด เสียงวี๊ด (ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดจาก หลอดลมเกร็งตัวมักเกิดช่วงหายใจออก ,อากาศที่ไหลออกจากท่อทางเดินหายใจที่ตีบแคบทำให้ มีการไหลของอากาศแบบ Turbulent Flow เกิดเป็นเสียงวี๊ด) ซึ่งเป็นอาการที่สำคัญของผู้ป่วยโรคหอบหืด เชื้อไวรัสดังกล่าวได้แก่ Rhinovirus ,RSV (Respiratory Syncytial Virus) ,Influenza Parainfluenza virus ,Humanmetapneumo virus (hMPV),Adenovirus ทำให้ในการรักษาเด็กที่อายุน้อย กว่า 2 ปี ฟังได้เสียงวี๊ดแล้วจะแยกได้อย่างไรว่าเด็กคนนี้ เป็นเสียงที่เกิดจากหลอดลมส่วนปลายอักเสบ หรือจากเด็กเป็นหอบหืด 🔶ฉะนั้นมีความจำเป็นที่แพทย์ต้องแยก ระหว่าง โรคหลอดลมส่วนปลายอักเสบ (Acute Bronchiolitis) และ โรคหืด โดยลักษณะสำคัญคือโรคหืด เด็กจะมีอาการกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้ ,การออกกำลังกาย ,การร้องไห้ ,หัวเราะ หรือหลังเป็นหวัด อาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ,มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว พบร่วมกับอาการทางภูมิแพ้ระบบอื่นๆ เช่นผื่นแพ้ผิวหนัง แพ้อาหาร ในแง่การรักษาก็ จะตอบสนองดีต่อยาขยายหลอดลม ในขณะที่หลอดลมส่วนปลายอักเสบ มักไม่ค่อยตอบสนองต่อยาขยายหลอดลม 👩‍⚕️นอกจากนี้ แพทย์ จะต้องติดตามอาการของเด็ก เป็นระยะ อย่างต่อเนื่อง ในกรณี่ที่มีเสียงหายใจวี๊ดบ่อยๆ ฉะนั้นถ้าลูกมีเสียงหายใจวี๊ดบ่อยๆเวลามาพบแพทย์ตรวจ ควรจดบันทึกไว้ หรือให้กุมารแพทย์ได้ดูแลต่อเนื่องจะเห็นความถี่ของอาการผิดปกติ ของลูก ✅แนวทางการวินิจฉัยโรคหืดในผู้ป่วยที่มีอายุ < 5 ปี อาจใช้เกณฑ์ ดังนี้ 1. หอบมีเสียงวี๊ดบ่อยๆ (> 1 ครั้ง ต่อเดือน) 2. ไอหรือหอบมีเสียงวี๊ด ขณะออกกําลังกาย 3. ไอกลางคืนขณะหลับ ในช่วงเวลาที่ไม่ได้เป็นโรคหวัด 4. ไอหรือหอบมีเสียงวี๊ดเป็นๆ หายๆ จนหลังอายุ 3 ปี ✅นอกจากนี้เราจะใช้เกณฑ์ Modified Asthma Prediction Index มาทำนายเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ที่มีเสียงหายใจวี๊ดมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปต่อปี (โดยไม่มีความผิดปกติของโครงสร้างระบบทางเดินหายใจ )ว่าจะดำเนินโรคไปเป็นหอบหืด หรือไม่ โดยท่าค่านี้ให้ผลบวก ก็มีโอกาสเป็นสูง (เหมือนเป็นการทำนายผลว่าเด็กคนนี้มีโอกาสที่จะเป็นหอบหืดเมื่อโตขึ้น ที่อายุเท่านี้ กี่เปอร์เซ็นต์) ♥️Modified Asthma predictive index (mAPI)ได้แก่ ♦️เกณฑ์หลัก Major Criteria 1.ประวัติโรคหืดในบิดา หรือมารดาที่ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ 2.ประวัติผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ในเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ 🔹เกณฑ์รอง Minor Criteria 1.หายใจเสียงวี๊ดช่วงที่ไม่ได้เป็นหวัด 2.มีระดับ eosinophil ในเลือดสูงมากกว่า หรือเท่ากับร้อยละ 4 3.มีอาการแพ้เมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยสารก่อภูมิแพ้ในอาหารบางชนิดเช่น นม ,ไข่ ,ถั่วลิสง จะถือว่าให้ผลบวก ♦️ถ้ามีอาการ 1 ใน 2 ของเกณฑ์หลัก (Major Criteria) หรือมีอาการ 2 ใน 3 ของเกณฑ์รอง (Minor Criteria) ✅ บางครั้งแพทย์ทดลองรักษาด้วย ยาบางกลุ่ม เช่น สเตียรอยด์ชนิดพ่น หรือ ยา Antileukotriens เช่น monteluklast ที่ใช้กันบ่อยๆก็ชื่อ singulair แพทย์จะสั่งให้ใช้นานสัก 2-3 เดือน แล้วติดตามว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ หรือลองหยุดยา แล้วอาการกำเริบ ก็เป็นวิธีช่วย ในการวินิจฉัยโรคหืดในเด็กได้ 😀เพราะฉะนั้นในลูก อายุ3 ปี ที่มีคุณพ่อเป็นโรคหอบหืดที่วินิจฉัยโดยแพทย์ ✅ถือว่ามีความเสี่ยงที่ลูกจะเป็นภูมิแพ้ หอบหืดได้ประมาณ 25-30% ✅แต่คงต้องดู ประวัติในเด็กด้วยว่ามีประวัติเรื่องภูมิแพ้ระบบอื่นๆด้วยหรือไม่ เช่นภูมิแพ้ผิวหนัง,แพ้นมวัว,ภูมิแพ้ทางจมูก ✅และถ้าลูกป่วยควรพบแพทย์ต่อเนื่อง เพื่อประเมินว่า เคยมีประวัติหายใจด้วยเสียงวี๊ด ไหม ถ้าเคยเป็นบ่อยขนาดไหน❓ และประวัติว่ามีเสียงวี๊ด ไอ ช่วงกลางคืน หรือถ้าถูกกระตุ้นด้วยสิ่งก่อให้เกิดภูมิแพ้,การออกกำลังกาย,การแสดงอารมณ์หรือไม่❓ หรือเป็นหวัดก็เป็นนานกว่าเด็กอื่นไหม❓ ถ้าแพทย์ให้ลองให้การรักษาแบบหอบ สักช่วงหนึ่งก็ควรทำ จะได้ประเมิน การเป็นโรคได้ตั้งแต่เล็กๆ 👩🏻‍🔬Lab ในเด็กเล็กเช่น การประเมินสมรรถภาพของปอด (Lung Function)ต่างๆก็ยังทำไม่ได้ ก็จะมีแต่ Skin Prick Test การสะกิดผิวหนัง ,เจาะเลือดหา Specific IgE ซึ่งต้องใช้ความสัมพันธ์กับอาการมาเป็นตัวแปรผล และ อาจตรวจไม่พบในผู้ป่วยโรคหืดได้ Cr.แนวทางการวินิจฉัยโรคหืดแห่งประเทศไทย Mayoclinic

คลินิกหมอศิริวรรณ รังสิต 029965172

ดู 1,207 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page