วัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ของฝากจากแม่สู่ลูก

🎁วัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ของฝากจากแม่สู่ลูก🎁

🤰 7 สิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนขณะตั้งครรภ์

💚1.การฉีดวัคซีนไม่ได้เฉพาะปกป้องตัวคุณเองขณะตั้งครรภ์ แต่ยังปกป้องทารกในครรภ์ด้วย

การฉีดวัคซีน ไข้หวัดใหญ่ และ วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน แบบไร้เซลล์ (Tdap)

นอกจากช่วยคุณแม่ป้องกันตัวเองแล้ว ภูมิคุ้มกันที่มารดาสร้างขึ้นยังส่งผ่านไปสู่ทารกในครรภ์ ทำให้ทารกมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนั้นๆ ในช่วงเดือนแรกๆของชีวิต

ก่อนที่ ทารกจะได้รับการฉีดวัคซีนด้วยตัวเอง แต่ภูมิคุ้มกันที่ผ่านจากมารดานี้จะค่อยๆลดลงตามเวลาที่ผ่านไป

💜2.การฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ ปลอดภัยทั้งต่อแม่และทารกในครรภ์

มีการเก็บข้อมูลและงานวิจัยรองรับจึงปลอดภัยไร้กังวล

🧡3.โรคไอกรนในเด็ก เป็นโรคที่อันตรายมาก

เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ที่ป่วยด้วยโรคไอกรน มักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

และมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นเช่น ปอดบวม ,ชัก ,หยุดหายใจ ,ความผิดปกติของสมอง และเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ผู้ใหญ่ และญาติพี่น้องรอบๆตัวทารก ยังมีโอกาสนำเชื้อมาฝากทารกโดยไม่รู้ตัว

เนื่องจากผู้ใหญ่และเด็กโต ที่ป่วยเป็นโรคไอกรนจะแสดงอาการน้อย จึงไม่คิดว่าตัวเองป่วย

จึงแพร่เชื้อสู่ทารกได้ง่าย

💙4.การที่หญิงตั้งครรภ์ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ทำให้มีภาวะแทรกซ้อนได้มาก

ทั้งนี้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถให้ได้ตลอดช่วงอายุครรภ์

💛5.ระยะเวลาในการให้วัคซีน ในหญิงตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ

วัคซีน คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน แบบไร้เซลล์ Tdap

แนะนำให้ในหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่อายุครรภ์ 27 – 36 สัปดาห์ ช่วยให้มีภูมิคุ้มกันผ่านจากมารดาสู่ทารก ช่วยปกป้องทารกหลังคลอดจากโรคได้ดีที่สุด

💜6.บุคคลที่อยู่ รอบๆตัวทารกแรกคลอดทุกคน ควรได้รับวัคซีนไม่ว่าจะเป็น พ่อ ,แม่ ,พี่ ,น้อง ,ลุงป้า ,น้า ,อา ,พี่เลี้ยง ที่ใกล้ชิดทารก

ทุกคนควรได้รับวัคซีน อย่างน้อย 2 ชนิด คือ ไข้หวัดใหญ่ และ คอตีบ บาดทะยักไอกรน แบบไร้เซลล์ (Tdap)

และควรได้วัคซีน 2 สัปดาห์ก่อนจะมาพบทารก เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรคขึ้นก่อน

(โดยปกติแล้วร่างกายคนเราจะสร้างภูมิคุ้มกันโรค (Antibody) ในเวลา 2 สัปดาห์ หลังฉีดวัคซีน)

❤7.ถ้าตั้งครรภ์ลูกคนต่อๆ ไป ก็ต้องได้รับวัคซีนใหม่ ในทุกๆการตั้งครรภ์

เพราะภูมิคุ้มกันของ มารดาจะลดลงไปตามระยะเวลา

โดยเฉพาะเราหวังผลให้เด็กทารกได้รับภูมิคุ้มกันจากมารดา ซึ่งต้องการระดับภูมิคุ้มกันที่สูงเพียงพอที่ จะผ่านจากมารดาสู่ทารกและสามารถป้องกันการเกิดโรคในทารกแรกคลอดได้

จึงจำเป็นที่หญิงมีครรภ์ต้องได้รับวัคซีน ในทุกๆการตั้งครรภ์ โดยไม่มีข้อยกเว้น

Cr. CDC