google-site-verification: google49d119a0868d58ef.html
top of page
รูปภาพนักเขียนsiriwanpokrung

วัคซีน เอกชนกับรัฐบาลต่างกันอย่างไร ?


💉วัคซีนภาครัฐบาลกับเอกชน และ คลินิก แตกต่างกันอย่างไร❓


🔺1.วัคซีน รัฐบาลได้รับฟรี แพทย์ เรียกว่า EPI (Expanded Programme for Immunization) ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องนำเด็กไปตามนัด

วันที่ กำหนดไว้ว่าเป็นวันฉีดวัคซีน (well baby clinic)

🎗วัคซีนเอกชน ,คลินิก ผู้ปกครองสียเงินเอง ราคาค่าวัคซีน ,ค่าแพทย์แล้วแต่สถานที่

(แต่สะดวกกว่า ไม่ต้องรอนาน มีวัคซีนสำรองไว้ฉีดได้ตลอด)


🔺2.วัคซีน รวมของรัฐบาล

จะได้เป็นรวม 5 โรค คือ คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน แบบทั้งเซลล์ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฮิบ และ ตับอักเสบบี

/และหยอดโปลิโอ ( ยกเว้นช่วง 4 เดือนได้ใช้แบบโปลิโอชนิดฉีด )

เพราะฉะนั้น


2.1 เด็ก บางคนอาจมีผลข้างเคียงต่อ ไอกรนแบบทั้งเซลล์ whole cell ซึ่งได้แก่

บวมแดงตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน ,ไข้สูง ,ชัก ,ร้องไห้ไม่หยุด ,หมดสติช่วงสั้นๆ (Collapsed)

🎗ของเอกชน ,คลินิก ใช้แบบรวม 6 โรค หรือ รวม 5 โรคตามแต่อายุ

และใช้ไอกรนเป็นแบบ Acellular หรือแบบไร้เซลล์ คือนำเอาบางส่วนของตัวเชื้อมาผลิตวัคซีน

ฉะนั้นจะมีผลข้างเคียงทีกล่าวถึงน้อยลง เรามักนิยมเรียกว่าแบบไม่มีไข้


2.2 โปลิโอ ของ รัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นแบบหยอด ยกเว้น ที่อายุ 4 เดือน

ซึ่งแบบหยอดจะมีผลข้างเคียงได้ แม้เปอร์เซ็นต์การเกิดน้อยมากๆ

และโปลิโอแบบหยอดยังไม่ครอบคลุม เชื้อโปลิโอ ชนิดที่ 2 ด้วย


🔺3.การสลับกันของช่วงเวลาฉีด ระหว่างรัฐบาล กับเอกชน ของวัคซีน ไข้สมองอักเสบ (Japenese Encephalitis) กับ หัด คางทูม หัดเยอรมัน ( MMR )

คือของรัฐบาลจะฉีด JE ตอนอายุ 1 ปี และ MMR ตอนอายุ 9 เดือน

🎗ของเอกชน ,คลินิกจะฉีด JE ตอนอายุ 9 เดือน และ MMR ตอนอายุ 1 ปี

ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญยอมรับได้ทั้ง 2 แบบ


🔺4.วัคซีนเสริมที่ผู้ปกครองต้องจ่ายเอง ได้แก่

วัคซีน IPD ,อีสุกอีใส ,ตับอักเสบเอ ,ไข้หวัดใหญ่ (รัฐให้เฉพาะกลุ่มเสี่ยง )

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก (รัฐให้เฉพาะเด็กหญิง ป.5)

วัคซีนงูสวัด ,วัคซีน Meningocoocus , วัคซีนไข้เลือดออก

ซึ่งกุมารแพทย์มักจะแนะนำให้เด็กได้รับวัคซีนกัน

ส่วนของรัฐบาลมี แต่ต้องจ่ายเงินเอง

ดู 8,328 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Kommentare


bottom of page