ตับอักเสบเอ HEPATITIS A

🌞โรคตับอักเสบเอ เป็น โรคติดเชื้อไวรัส ที่ถ้าเป็นในเด็กเล็กแล้วอาการจะน้อย

แต่การติดเชื้อในเด็กโต และผู้ใหญ่

จะมีอาการ ไข้ ,อาเจียน ,เบื่ออาหาร ,ตัวและ

ตาเหลือง (ดีซ่าน)

แต่โชคดีที่ไม่ก่อให้เกิด การเสียหายแก่ตับในระยะยาว และไม่ก่อให้เกิดโรคตับเรื้อรัง

🍱การติดต่อ🍜

📍ติดต่อทางอาหาร เครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ

📍ใกล้ชิดกับคนเป็นโรค หรือคนที่มีเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ

📍มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อไวรัสนี้

🔴ปัจจัยเสี่ยง

📌ดำรงชีวิตอยู่ หรือเดินทางในเขตที่มีการระบาด

📌ทำงานกับเด็ก ,สถานเลี้ยงเด็ก

📌กลุ่มชายรักชาย ,คนที่ติดเชื้อไวรัสHIV ,กลุ่มคนไร้บ้าน

📌กลุ่มคนที่ใช้สารเสพติด

📌ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวกับปัจจัยการแข็งตัวของเลือด เช่นโรคฮีโมฟิเลีย

👿ภาวะแทรกซ้อน👿

ตับทำงานล้มเหลว เฉียบพลัน (Acute liver failure)

มักจะเกิดในคนสูงอายุ หรือมี โรคประจำตัวอยู่ก่อน

🏥การรักษา

✅รักษาแบบประคับประครอง หายเอง

▫️พักผ่อนเยอะๆ

▫️ควรทานอาหาร แบ่งเป็นมี้อเล็กๆ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่จะคลื่นไส้ อาเจียน

▫️ทานน้ำผลไม้ ,นม เพราะให้พลังงานสูง และป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ

▫️ห้ามทาน เครื่องดื่มที่มีอัลกอฮอลล์ และยา ที่ไม่จำเป็น(จะไปทำร้ายตับ)

💉การป้องกันด้วยวัคซีน

🧿วัคซีนตับอักเสบ เอ เป็นวัคซีนเสริม

มีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัยสูง

ในประเทศไทยปัจจุบัน มี 2 ชนิด

🌸1. วัคซีนเชื้อตัวตาย

ฉีดเข้ากล้าม 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 6 - 12 เดือน

แนะนำให้ฉีดในเด็กอายุมากกว่า 1 ปี

🌼2. วัคซีนเชื้อตัวเป็นที่ทำให้อ่อนกำลังลง (Live attenuated vaccine)

ฉีด 1 ครั้ง เข้าใต้ผิวหนัง

แนะนำให้ฉีดในเด็กอายุมากกว่า 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป

ผลข้างเคียง คือเรื่องไข้ (ในเด็กเล็กผลข้างเคียงจะน้อย แต่ในเด็กโต และผู้ใหญ่ จะมีไข้ได้มากกว่า)

👩‍⚕️เด็กทุกคนที่มาพบป้าหมอ จะได้รับคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้อยู่แล้วค่ะ

🧓🏻สำหรับผู้ใหญ่ พบว่าคนไทยที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปมักติดเชื้อไวรัสนี้ตามธรรมชาติ ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้แล้ว

❓ในกรณีที่ไม่แน่ใจ สามารถตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันได้ ก่อนฉีดวัคซีน

🍊และปัจจุบัน มีวัคซีนในรูปของตับอักเสบ เอ และ ตับอักเสบ บี รวมอยู่ในเข็มเดียวกัน แล้วค่ะ

☎️สอบถามเรื่องวัคซีนติดต่อ

คลินิกหมอศิริวรรณ 029965172